ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อคท่องเที่ยวเชียงใหม่ค่ะ

RSS

วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เริ่มแรกเรียนรู้เรื่องบล็อก

บล็อก ( blog) เป็นคำรวมมาจากคำว่า เว็บล็อก (weblog) เป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงค์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า เพลง หรือวิดีโอในหลายรูปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน ซึ่งทำให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คำว่า "บล็อก" ยังใช้เป็นคำกริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์"

สังคมบล็อก

สังคมบล็อก หมายถึง พื้นที่บนอินเตอร์เน็ท เพื่อให้ผู้ที่ต้องการนำเสนอบทความ สามารถแบ่งบัน เรื่องราว รูปภาพ รูปถ่าย อันส่งผลประโยชน์ แกผู้เข้ารับชม อันนี้คือสิ่งที่จำกัดความหมายของสังคมบล็อก ตั้งเป้าหมายไว้ โดยผู้ใช้ สามารถที่จะหา ผลประโยชน์จาก บทความที่ตนเอง เป็นผู้นำเสนอ โดยอาจจะมีการ นำเสนอโฆษณา พร้อมๆ กับการนำเสนอ บทความ แล้วแต่ความต้องการของผู้ใช้ อย่างอิสระ
อนึ่ง การใช้งานระบบสังคมบล็อก มีเนื้อหาของการนำเสนอ โดยจะต้องเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ ผู้นำเสนอ ระหว่างผู้ใช้งานด้วยกัน ไม่อาจจะทำการสำเนา เอกสารดังกล่าวได้ เพียงแต่สามารถทำการลิงค์เชื่อมโยง เพื่อส่งผลโดยตรงต่อผู้ใช้งานทั่วไป ให้สามารถใช้งานระบบได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด

ความเป็นมาของบล็อก

ในความเป็นจริงแล้วบล็อกมีมาในช่วงยุคต้นๆของการมีเว็บไซต์เลยทีเดียว(ช่วงประมาณปี ค..1992) โดยบล็อกมีต้นตระกูลมาจากเว็บประเภทหนึ่งที่เรียกว่า  What’s New  ซึ่งในยุคแรกขณะนั้นยังมีเว็บไซต์จำนวนไม่มากนัก เจ้าหน้าที่ของสถาบันวิจัยนิวเคลียร์ภาคพื้นยุโรป (CERN) ได้เป็นผู้เริ่มสร้างเว็บสำหรับนำเสนอข่าวเกี่ยวกับวงการเว็บ รวมถึงแจ้งข่าวสารเว็บไซต์ที่เกิดใหม่ โดยทำในลักษณะเป็นลิงค์ชี้ไปยังเว็บไซต์นั้นๆ และมีคำอธิบายว่ามันคืออะไร มีอะไรน่าสนใจบ้าง จากนั้นก็มีผู้ทำ What’s New ในลักษณะต่างๆ มากมาย จนถึงปี ค..1997 นายจอร์น บาร์เกอร์ (Jorn Barger) เจ้าของเว็บไซต์ http://www.robotwisdom.com/ ซึ่งเป็นเว็บที่มีลักษณะเป็น บล็อก อาจกล่าวได้ว่าเป็นบล็อกรุ่นแรกๆ ก็ได้คิดคำว่า weblog ขึ้นมา

ต่อมาในปี ค..1999 ปีเตอร์ เมอร์โฮลซ์ (Peter Merholz) เจ้าของ http://www.peterme.com/ ประกาศว่า ต่อไปเขาจะอ่านคำว่า weblog ว่า “วี - บล็อก” และจะเรียกสั้น ๆ ว่า blog “บล็อก” เนื่องจากในยุคสมัยนั้น ยังมีคนใช้บล็อกจำนวนไม่มากนัก และความคิดนี้ ถือเป็นความคิดที่แปลกใหม่น่าสนใจ นับตั้งแต่นั้นมา คำว่า บล็อก จึงกลายเป็นคำที่ได้รับความนิยมไปทั่ว และถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย แม้ว่า weblog นั้นดูจะเป็นภาษาทางการมากกว่าคำว่า blog แต่ก็ยังมีผู้เรียกขาน weblog อยู่เช่นกัน 


ใน ปี ค..1999 เริ่มมีบริการช่วยสร้างบล็อกฟรี ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ได้แก่ www.blogger.com (เวทีที่ท่านกำลังอ่าน) และ www.pitas.com ทั้งสองเว็บไซต์เปิดให้บริการแก่สมาชิก ซึ่งจะให้เครื่องมือในการ สร้างบล็อก โดยจะใช้งานเครื่องมือเหล่านี้ผ่านทางเว็บบราวเซอร์ หากใครที่มีพื้นที่จัดเก็บเว็บไซต์อยู่แล้ว ก็สามารถสร้างบล็อกแล้วนำบล็อกไปเก็บไว้ในพื้นที่จัดเก็บเว็บไซต์ของตนเองได้เลย หรือถ้าไม่มีพื้นที่เก็บเว็บไซต์ ก็สามารถฝากบล็อกไว้กับผู้ให้บริการได้อีกด้วย เมื่อมีเครื่องมือลักษณะนี้มาให้บริการ ทำให้การสร้างบล็อกเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ๆ ผู้สร้างบล็อกเพียงแค่ใส่ข้อมูลอย่างเดียวและไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องการสร้างเว็บก็ได้ เลยทำให้วงการบล็อกเป็นที่สนใจ และทำให้มีบล็อกใหม่ ๆ เนื้อหาที่หลากหลายเกิดขึ้นมากมาย

โดยปกติการสร้างบล็อก สามารถสร้างได้ง่ายผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ของผู้ให้บริการสร้าง Blog ฟรี ซึ่งจะมีเครื่องมือสนับสนุนให้ผู้สร้างเนื้อหาสามารถสร้างสรรค์งานเขียนได้อย่างง่ายและรวดเร็ว ปัจจุบันมีที่นิยมหลายแห่ง อาทิ http://www.blogger.com, http://www.wordpress.com, เป็นต้น
สำหรับบ้านเราก็นิยมสร้างบล็อกเป็นเครื่องมือช่วยในการประกอบธุรกิจ การค้าผ่านอิเล็กทรอนิกส์ การแลกเปลี่ยนความรู้ออนไลน์ การใช้เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลข่าวสาร อาทิ http://bloggang.com http://www.oknation.net/blog/index.php และ http://gotoknow.org 

วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

การสร้าง Labels (ป้ายกำกับ) กำกับในบทความ

การติดตั้ง Gadget กลุ่ม(หมวด) เนื้อหาให้ Blogger


Blogger ยังเพิ่มเติมคุณลักษณะเฉพาะที่เป็นส่วนติดตั้งพิเศษที่เรียกว่า Gadget เพิ่มเติมต่างๆได้โดยง่าย มากถึง 24 รายการ มีรายการ ดังภาพด้านล่างนี้


 

หนึ่งใน Gadget ที่น่าใช้ของ Blogger ก็คือ กลุ่มเนื้อหา หรือหมวดหมู่ หรือ Categories หากเราเป็นผู้นิยมชมชอบในการสร้างเนื้อหาแล้ว การสร้างหมวดหมู่ นับได้ว่ามีประโยชน์กับนักเขียนเรื่องราวบนบล็อก ที่มีอยู่หลากหลายเรื่อง ซึ่งเมื่อนานวันก็มีเรื่องเพิ่มมากขึ้น สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นคือสาระเนื้อหา จะกระจัดกระจายไม่เป็นหมวดหมู่ ซึ่ง Blogger มีเครื่องมือสำหรับสร้างหมวดหมู่ หรือ Categories ไว้ให้ ซึ่งการสร้างหมวดหมู่ มีอยู่ 2 ขั้นตอน ดังนี้

1. ขั้นติดตั้ง Gadget
        ก่อนอื่นต้องนึกไว้ล่วงหน้าก่อนว่า จะให้ หมวดหมู่ หรือ Categories นี้อยู่ที่ตำแหน่งไหน ในที่นี้สมมุติว่า จะให้อยู่ใต้ รายการบทความ ดังตัวอย่าง 




เมื่อกำหนดได้แล้ว มาดูวิธีการดังนี้
1. ไปที่หน้าบล็อกหลัก แล้วดูตรงส่วนควบคุมบล็อก (ซึ่งจะอยู่ด้านซ้ายมือ) คลิกเลือกรายการ ชื่อ Layout (รูปแบบ)

2. จะเกิดผังรายละเอียดแม่แบบของบล็อก เลือก Zone หรือตำแหน่งที่จะวางหมวดหมู่ หรือ Categories
3. ดูที่แถบข้อความ(อักษรสีฟ้า) Add a Gadget (เพิ่ม Gadget) คลิกที่ข้อความดังกล่าว
4. จะเกิดหน้าต่างที่ชื่อ Add a Gadget ที่ชื่อว่า Labels (ป้ายกำกับ)


5. ตั้งค่าป้ายกำกับ ซึ่งใช้ค่าดั้งเดิม ก็น่าจะดีที่สุด สำหรับชื่อสามารถตั้งได้ตามใจชอบ เช่น หมวดหมู่ กลุ่มเนื้อหา หรือ Categories


(ซึ่งตอนนี้แม้ติดตั้งแล้ว แต่ที่แถบเมนูของเราจะยังไม่ปรากฏรายการ)

รายละเอียดในหน้าต่างการปรับแต่ง Labels
จากหน้าต่างด้านบน จะมีส่วนปรับแต่ง อยู่ 4 ส่วน อธิบายอย่างย่อ ดังนี้
1. Title (หัวข้อ) สำหรับตั้งชื่อตามใจชอบ แต่ไม่ควรยาวนัก
2.
Show (แสดง) มี 2 เงื่อนไข คือ
        All Labels               แสดงทุกรายการที่ป้ายกำกับทั้งหมด
                       
Selected Labels        แสดงเฉพาะป้ายกำกับที่เลือก ซึ่งหากคลิกรายการนี้
                                                จะมีส่วนกำหนดค่าการแสดงผลเพิ่มขึ้นมา
3.
Sorting (การเรียง) มี 2 เงื่อนไข คือ
                Alphabetically           เรียงตามลำดับตัวอักษร 
               
By Frequency             เรียงตามลำดับความถีของการเข้าชม

4.
Display (การแสดงผล) มี 2 เงื่อนไขเช่นกัน คือ
                List                                แสดงเป็นรายการ และ               
                Cloud                           แสดงเป็นลำดับขนาดตัวอักษรของหมวดหมู่ตามจำนวนรายการที่มีอยู่
                                           
(2) ขั้นตอนกำหนด Labels (ป้ายกำกับ) กำกับใส่ในบทความ

เป็นขั้นตอนในการกำหนดให้บทความของท่าน เข้ากลุ่มหมวดหมู่  มีวิธีการดังนี้
1. ไปที่หน้าบล็อกหลัก แล้วดูตรงส่วนควบคุมบล็อก (ซึ่งจะอยู่ด้านซ้ายมือ) คลิกเลือกรายการ ชื่อ Post (บทความทั้งหมด)



2. คลิกเลือกบทความที่ต้องการ



3. มาดูทางมุมด้านขวา จะมีส่วนควบคุมที่ชื่อ Post settings (การตั้งค่าโพสต์)
4. คลิกเลือกรายการ
Labels (ป้ายกำกับ) จะเกิดกล่องข้อความ ให้ท่านพิมพ์ข้อความที่จะกำหนดเป็นกลุ่มหมวดหมู่ลงไป (หรืออาจจะเลือกกลุ่มที่ท่านได้กำหนดไว้แล้วก็ได้)
เราสามารถใส่ Labels(ป้ายกำกับ) ให้กับบทความมากกว่า 1 ป้ายกำกับได้ ซึ่งจะคั่นแต่ละป้ายด้วยเครื่องหมายจุลภาค(,)
5. คลิกที่ปุ่ม Done (เสร็จสิ้น) ที่หน้าแรกของบล็อกก็จะแสดงหมวดหมู่ของบทความที่เราตั้งชื่อไว้ในขั้นที่ 4

หมายเหตุ
1. Gadget ที่ชื่อ Labels นี้ท่านสามารถเพิ่มได้มากกว่า 1 ตำแหน่ง
2.หากท่านไม่ต้องการ Gadget ที่สร้างขึ้นนี้ ท่านสามารถเข้าไปยกเลิก โดยคลิกที่ปุ่ม Remove
3. ท่านสามารถเลือกเพิ่มเติมคุณลักษณะเฉพาะหรือ Gadget อื่นๆได้ตามที่ต้องการโดยใช้ขั้นตอนเหมือนการเพิ่มกลุ่มเนื้อหา (Label




การนำวิดีโอ มาใช้บนบล็อก

ปัจจุบันการหาแหล่งหรือนำวิดีโอมาใช้งานบนบล็อกสามารถดำเนินการได้ 5 รูปแบบ
1. Upload : ดำเนินการ Upload จากคอมพิวเตอร์หรือแหล่งเก็บ
2.  Form YouTube : การแทรกไฟล์วิดีโอจาก YouTube ทั่วไป
3. Form YouTube videos : การแทรกไฟล์วิดีโอจากช่อง YouTube ที่เป็นสมาชิก
4. Form your phone : การแทรกไฟล์วิดีโอจากโทรศัพท์ Smartphone

5. Form your webcam : การแทรกไฟล์วิดีโอจากกล้องเว็บแคม



ในที่นี้จะแนะนำเฉพาะ (2) การแทรกไฟล์วิดีโอจาก YouTube ทั่วไป
1. เลือกสร้างรายการบทความใหม่ หรือ จะแก้ไขเพิ่มเติมจากบทความเดิมที่มีอยู่
            ที่ตำแหน่งที่ต้องการวางไฟล์วิดีโอ
2. คลิกเลือกที่รายการ Form YouTube



3. ที่ช่อง Browse เลือกหา หรือนำ links URL รายการวิดีโอที่ได้พิมพ์วางในช่อง คลิกเพื่อนค้นหา 



 4.ทำการตรวจสอบก่อนการวางโดยทำการคลิกที่กรอบไฟล์วิดีโอ



5.หากถูกต้องคลิกที่ปุ่ม Select (สีฟ้า)
6.ไฟล์วิดีโอที่เลือกก็จะปรากฏในพื้นที่  ที่ท่านต้องการ เสร็จแล้วกดปุ่มบันทึก และเผยแพร่ตามลำดับ

การวางภาพประกอบในบล็อก

ในการดำเนินการสร้างบทความหรือบทเรียนที่ดี โดยปกติจะมีการวางสื่อภาพประกอบเนื้อหา ซึ่ง Blogger สามารถดำเนินการได้โดยง่าย มีวิธีการดังนี้
1.ให้ไปที่ ตรงตำแหน่งบรรทัดที่ต้องการแทรกภาพประกอบ ให้ คลิกที่ปุ่ม แทรกภาพ

 2. เลือกไฟล์ โดยกดที่ปุ่ม Browse ไปที่แหล่งเก็บไฟล์ภาพ (Drive หรือ Folder หรือสื่อเก็บข้อมูลต่างๆ)  สำหรับไฟล์ภาพ ควรเป็น ตระกูล JPG GIF PNG และขนาดของความกว้างไม่เกิน 600 Pixels ดังนั้นควรตกแต่งไฟล์ภาพที่จะ Upload ขึ้น Blog ทั้งหมดให้มีขนาดกว้างไม่เกิน 600 Pixels  นอกจากจะทำให้ไฟล์ภาพมีขนาดพอดีกับหน้าบล็อกแล้ว ยังจะช่วยให้การ Upload ไฟล์รูปภาพ รวมถึงการแสดงผลหน้าเอกสารบล็อก ทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

3. เมื่อ Upload ไฟล์ภาพเรียบร้อยแล้ว กดปุ่มเพิ่มรายการที่เลือก ภาพจะปรากฏ แต่จะมีขนาดเล็กสุด  ให้นำเมาล์ไปคลิกที่รูปภาพดังกล่าว จะเกิดเมนูให้เราสามารถเลือกขนาดของภาพ คือ เล็ก / ปานกลาง / ใหญ่ / ใหญ่พิเศษ และ ขนาดเดิม ดังนัันถ้ากำหนดขนาดของภาพไว้ที่ 600 Pixels เมื่อเราเลือกขนาดเดิม จะได้ภาพพอดี  นอกจากนั้น ที่เมนูดังกล่าว ยังสามารถปรับชิดซ้าย ขวา กึ่งกลาง หรือ ลบ รูปภาพออกได้


4. หลังจากตกแต่งขนาด และวางตำแหน่งภาพเรียบร้อยแล้ว ให้กดปุ่มบันทึก และ ปุ่มเผยแพร่ ตามลำดับ

ลักษณะสำคัญและประโยชน์ของบล็อก

ลักษณะสำคัญของบล็อก
1. แสดงเนื้อหาเป็นชุด ๆ และแต่ละชุดมีวันที่ ที่บันทึกเนื้อหากำกับไว้อย่างชัดเจน
2. เรียงลำดับเนื้อหาตามวันที่ โดยข้อความใหม่ล่าสุดที่บันทึกเข้าไป จะถูกแสดงอยู่ด้านบนสุดของหน้าเว็บไซต์ ส่วนข้อความที่บันทึกเข้าไปก่อนหน้านั้น จะอยู่ถัดลงไปเรื่อย ๆ
3. มีการสะสมชุดเนื้อหาย้อนหลัง ผู้อ่านสามารถค้นหาตามวันเวลา (archive) หรือค้นหาจากคำสำคัญ (tag) ได้
4. อาจอนุญาตให้ผู้อ่านสามารถแสดงความคิดเห็น (comment) ที่มีต่อเนื้อหาได้
5. อาจมีการจัดหมวดหมู่ของเนื้อหาออกเป็นกลุ่ม ๆ (category) เช่น บล็อกหนึ่ง ๆอาจไม่ได้มีเนื้อหาเพียงเรื่องเดียว เพราะเจ้าของบล็อกมีความสนใจในหลาย ๆ เรื่อง เพื่อให้สะดวกในการอ่าน จึงทำการแยกเป็นหลายหมวดหมู่ไว้ ตัวอย่างเช่น บันทึกประจำวัน, แนะนำเว็บ, วิเคราะห์ข่าว, วิจารณ์ภาพยนตร์ เป็นต้น
6. อาจมี RSS Feed เพื่อให้สะดวกในการติดตามการอัพเดทข้อมูลของบล็อกนั้น ๆและเพื่อความสะดวกในการอ่านบล็อกโดยที่ไม่ต้องเข้ามาอ่านที่บล็อกจริง ๆ

ประโยชน์ของบล็อก
ประโยชน์ของบล็อกมีมากมายหลายประการ อันได้แก่
1.เป็นสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์
ถือได้ว่าบล็อกเป็นเว็บที่เจาะกลุ่มเป้าหมายของผู้คนที่ใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก การวางกลยุทธ์การตลาดในแวดวงธุรกิจไม่อาจพึ่งพาแค่ แผ่นพับ ใบปลิว หรือการลงโฆษณาตามหนังสือพิมพ์ การโฆษณาผ่านวิทยุ โทรทัศน์ ซึ่งช่องทางที่กล่าวนับวันยิ่งมีค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์สูง การใช้บล็อกเพื่อประชาสัมพันธ์ จึงเป็นอีกวิธีการที่มีค่าการลงทุนที่ต่ำ แต่สามารถส่งผลทางการตลาดที่สูงขึ้นได้ นอกจากนี้ในภาครัฐมีหลายแห่งที่ใช้บล็อกเป็นเครื่องมือ ช่องทางในการเผยแพร่ข่าวสารของหน่วยงานอีกทางหนึ่งด้วย
2. เป็นแหล่งให้ข้อมูลความรู้ เฉพาะเรื่อง
ปัจจุบันข่าวสารต่าง ๆ รวมถึงเทคโนโลยี มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก จนหนังสือหรือสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ล้าสมัย หรือไม่สามารถออกได้ทันตามความต้องการของผู้ที่สนใจ การใช้บล็อกเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการให้ข้อมูล ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะว่าการสร้างบล็อก ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก และสามารถเขียนหรือปรับปรุงแก้ไขข้อความที่เขียนได้อย่างรวดเร็วง่ายดาย จึงมีผู้ที่มีความรู้หลายต่อหลายท่านใช้บล็อกเป็นที่เผยแพร่ความรู้ เช่น
 http://www.blognone.com/ (บล็อกที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ 
 http://www.oknation.net/blog/black (บล็อกวิเคราะห์ข่าวของคุณสุทธิชัย หยุ่น)
3. เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ปัจจุบันบล็อกถือเป็นช่องทางที่ใช้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้อีกทางหนึ่ง เพราะบล็อกส่วนใหญ่ มักจะอนุญาตให้ผู้อ่านแสดงความคิดเห็นของตนที่มีต่อข้อความในบล็อกนั้น ๆ ได้ ซึ่งอาจจะเป็นการให้คำแนะนำ หรือจะเป็นการแสดงความเห็นด้วย/ไม่เห็นด้วยกับข้อความในบล็อกนั้น ๆ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้เขียนบล็อกและผู้อ่านบล็อกสามารถทำให้เกิดเป็นสังคมย่อย ๆ ขึ้นมา
4. เป็นเวทีการเรียนรู้
นอกจากจะเป็นแหล่งข้อมูลเฉพาะเรื่องแล้ว สถานศึกษา หรือครู และบุคลากรทางการศึกษา ยังใช้บล็อก เป็นอีกกลไก หรือเครื่องมือในการเผยแพร่ความรู้เนื้อหา เพิ่มเติมจากหลักสูตร หรือเป้นเวทีสำหรับให้ลูกศิษย์เข้ามาแสดงความคิดเห็น หรือตอบคำถามต่างๆ

ในโลกของสังคมข่าวสารปัจจุบัน บล็อก เป็นอีกปัจจัยสำคัญของ Social network ที่มีอิทธิพลต่อวงการธุรกิจ วงการข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งแวดวงการศึกษา จะเห็นได้ว่าอัตราการเจริญเติบโตของบล็อกประเภทต่างๆไม่ว่าจะเป็นบล็อกส่วนตัว ไปจนถึงบล็อกขององค์กร/ธุรกิจ จะมีอัตราที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ถือได้ว่าเป็นการเกิดของ สังคมแห่งการแบ่งปัน ที่มีทั้งผู้ต้องการสาระเนื้อหา ผู้ที่เผยแพร่เนื้อหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวหลากหลายประเภทหรือหลากหลายมุมมอง หรือชื่นชมผลงานส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ชีวิตต่างๆ ผลงานรูปภาพ งานกราฟิก งานมัลติมีเดียต่างๆ ไปจนถึงบล็อกขององค์กร / ธุรกิจ ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อการโฆษณา ประชาสัมพันธ์


ความคิดเห็นจาก facebook